ไม่ต้องครีเอทีฟบ้างก็ได้นะ: ทำไมความคิดสร้างสรรค์ไม่ได้ดีเสมอไป - Oli Mould / เพชรี สิริวรวิทย์
ISBN: 9786169486596
แปลจากหนังสือ : Against Creativity
ผู้แต่ง : Oli Mould
ผู้แปล : เพชรี สิริวรวิทย์
สำนักพิมพ์ : สำนักนิสิตสามย่าน
ปีที่พิมพ์ : พิมพ์ครั้งแรก ตุลาคม 2568
จำนวนหน้า : 217
ไม่ต้องครีเอทีฟบ้างก็ได้นะ
แปลจาก Against Creativity ของ Oli Mould
หนังสือที่จะสั่นคลอนทุกความเชื่อที่มีต่อคำว่า "ครีเอทีฟ"
และท้าทายให้มองเห็น "ความเป็นไปไม่ได้" ในโลกใหม่ที่รออยู่
ไม่ต้องครีเอทีฟบ้างก็ได้นะ: ทำไมความคิดสร้างสรรค์ไม่ได้ดีเสมอไป
(Against Creativity)
Oli Mould เขียน
เพชรี สิริวรวิทย์ แปล
สำนักพิมพ์สำนักนิสิตสามย่าน
พิมพ์ครั้งแรก ตุลาคม 2568
.
ในสังคมปัจจุบัน "ความสร้างสรรค์" ถูกยกย่องให้เป็นคุณค่าสูงสุด เป็นแรงขับเคลื่อนความก้าวหน้าทางเศรษฐกิจและสังคม เป็นสิ่งที่ทุกคนถูกกระตุ้นให้มี ไม่ว่าจะในที่ทำงาน โรงเรียน หรือแม้แต่ในชีวิตส่วนตัว แต่แท้จริงแล้ว ความสร้างสรรค์ในบริบทของระบบทุนนิยมเสรีนิยมใหม่นั้น มีความหมายเพียงอย่างเดียวคือ การดำรงรักษาสถานภาพที่เป็นอยู่ และสนับสนุนการเติบโตอย่างต่อเนื่องของระบบทุนนิยมเท่านั้น
.
หนังสือเล่มนี้จะพาไปสำรวจว่าวาทกรรมเรื่อง "ความสร้างสรรค์" ได้ถูกนำไปใช้เพื่อสร้างผลกำไรอย่างไร
การทำงาน: ความสร้างสรรค์ถูกทำให้เป็นเรื่องของปัจเจกบุคคล และนำไปสู่ความไม่มั่นคงของงานที่เพิ่มขึ้น (precariousness) โดยการนำแนวคิดที่ว่าคนต้อง "มีความสร้างสรรค์" มาเป็นข้ออ้างในการยกเลิกสวัสดิการและสิทธิประโยชน์ต่างๆ และทำให้งานทุกประเภทต้องตกอยู่ภายใต้การตีความเรื่องความสร้างสรรค์ของทุนนิยม
ผู้คน: ระบบทุนนิยมยกย่องผู้ที่ได้รับประโยชน์จากอภิสิทธิ์ทางสังคมว่าเป็น "ผู้ริเริ่ม" และผลักผู้คนที่มีความแตกต่างทางอัตลักษณ์ออกไปสู่ชายขอบ แต่ผู้เขียนโต้แย้งว่าผู้ที่มี "ความสามารถที่แตกต่าง" (diffability) ต่างหาก ที่มีศักยภาพอย่างแท้จริงในการเป็นผู้สร้างสรรค์ เพราะพวกเขาสัมผัสโลกในแบบที่ท้าทายกรอบความปกติแบบเดิม
การเมือง: ความสร้างสรรค์ถูกใช้เป็นอาวุธในการบังคับใช้มาตรการรัดเข็มขัดทางการเงิน โดยการเปลี่ยนบริการสาธารณะให้เป็นกลไกของความสร้างสรรค์แบบทุนนิยมที่เน้นการแข่งขันและการเป็นผู้ประกอบการ
เทคโนโลยี: อัลกอริทึมถูกพัฒนาขึ้นเพื่อขยายการเจริญเติบโตของทุนนิยม โดยการแยกย่อยชีวิตประจำวันของเราให้เป็นเรื่องส่วนบุคคลและสามารถทำกำไรได้ รวมถึงการแพร่หลายของ "เศรษฐกิจแบ่งปัน" (sharing economy) ที่ฉกฉวยการแบ่งปันทางสังคมให้กลายเป็นเรื่องของการเงิน
เมือง: แนวคิด "เมืองสร้างสรรค์" (Creative City) ถูกใช้เป็นกลยุทธ์เพื่อผลักดันการไล่ที่คนจน (gentrification) โดยมี "การฟอกขาวด้วยศิลปะ" (art washing) เป็นเครื่องมือในการสร้างภาพลักษณ์ที่น่าดึงดูดสำหรับชนชั้นสร้างสรรค์ที่มั่งคั่งกว่า
.
แท้จริงแล้วความสร้างสรรค์ เป็นพลังแห่งการเปลี่ยนแปลงที่สามารถต่อกรกับความอยุติธรรมของระบบทุนนิยมได้ แต่เราต้องกอบกู้มันออกมาจากการเป็นเพียงเครื่องมือขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจ ผู้เขียนเชิญชวนให้ผู้อ่านปฏิเสธความสร้างสรรค์ที่ถูกยัดเยียดให้ และหันไปหาความสร้างสรรค์เชิงปฏิวัติ ซึ่งเป็นเรื่องของการรวมพลังเพื่อสร้างโลกที่ยุติธรรม เท่าเทียม และหลุดพ้นจากกรอบการเอารัดเอาเปรียบของทุนนิยม
“ความสร้างสรรค์ที่แท้คือการมองหาสุ้มเสียงเล็กๆ ที่เสนอโอกาสหลุดจากความอยุติธรรมของทุนนิยม แล้วร่วมกันด้วยทรัพยากรทั้งหมดที่มี เพื่อต้านคนที่พยายามฉกฉวยเสียงเหล่านั้น”
.
สารบัญ
บทนำ อะไรคือความสร้างสรรค์
บทที่ 1 การทำงาน: ความสร้างสรรค์ที่ไม่หยุดหย่อน
บทที่ 2 ผู้คน: ความสร้างสรรค์ชายขอบ
บทที่ 3 การเมือง: ความสร้างสรรค์ที่รัดเข็มขัด
บทที่ 4 เทคโนโลยี: ความสร้างสรรค์แบบชุดคำสั่งขั้นตอน
บทที่ 5 เมือง: ความสร้างสรรค์แห่งพื้นที่คอนกรีต
บทสรุป ความสร้างสรรค์ที่เป็นไปไม่ได้