(Pre-order) จดหมายจากดาวแมว / นทธี ศศิวิมล (เริ่มจัดส่ง 28.02.68)
ISBN: 9786168166857
ผู้แต่ง : นทธี ศศิวิมล
ผู้แปล : -
สำนักพิมพ์ : P.S.
แมวตาย ร่างกายของแมวอาจหายไปจากโลก
แต่ความรักของแมวจะไม่มีวันหายไป
จากหัวใจของผู้คนอันเป็นที่รัก
----------------------------
รวบรวมจดหมายฉบับแล้วฉบับเล่าที่ถูกนำส่งจาก ‘ดาวแมว’ ในค่ำคืนหนึ่ง มีแมวส้มตัวอ้วนๆ ขนนุ่มฟูทำหน้าที่เป็นไปรษณีย์ รับจดหมายจากบรรดาวิญญาณแมวที่เลือกเขียนถึงมนุษย์ได้หนึ่งคนก่อนจะไปเกิด ลงมาส่งให้ถึงมือผู้รับบนโลก ภายใต้เงื่อนไขว่าผู้รับจะจดจำอะไรเกี่ยวกับจดหมายไม่ได้เมื่อพระอาทิตย์ขึ้น อดีตที่มักจะกัดกร่อนหัวใจผู้สูญเสียบรรจุอยู่ในแต่ละหน้ากระดาษ ย้ำเตือนการจากลา เป็นหลักฐานของอ้อมกอดอุ่นๆ ที่รอโอบรับเราเสมอเมื่อคิดถึง
การมีอยู่ของดาวแมวอาจไม่ใช่เรื่องของความเชื่อในโลกหลังความตาย แต่เป็นความปรารถนาในหลืบลึกของหัวใจที่หวังให้สิ่งมีชีวิตที่รักยังคงอยู่ที่ไหนสักที่ในจักรวาล เพื่อจะได้บอกตัวเองว่าไม่จำเป็นต้องแบกสัมภาระใดจากการสูญเสียไว้มากมายจนเกินไปอีกแล้ว
บางส่วนจากในเล่ม
มนุษย์น่ะขลาดเขลาและหวาดกลัว แม้จะมีมากกว่าแค่อุ้งตีนเล็กๆ แต่อ่อนแอกว่าแมวอย่างพวกผมมาก ทั้งอ่อนแอและเปราะบาง จนบางคราวก็ขยับขึ้นไปยืนบนเส้นแบ่งของความน่าเวทนาและน่ารังเกียจ
—-----
ความทรงจำเดิมที่เกาะติดแน่นอยู่กับเราไม่จากไปไหน นำมาได้ทั้งความสุขและความทุกข์ ความรู้สึกเศร้า เสียใจ เสียดาย คิดถึง มันยังคงโบยตีเราได้เท่าเดิม และอาจมากกว่า ที่ร้ายที่สุดจนบีบหัวใจดวงกระจิ๋วของเราแน่นจนแทบหายใจไม่ออก คือการโหยหาบางสิ่งบางอย่างที่ไม่อาจเติมเต็มได้อีกแล้วหลังความตาย
—-----
การที่พวกเรานั่งหรือนอนนิ่งๆ ทอดสายตามองความว่างเปล่า ไม่ได้แปลว่าเรากำลังเหงาและอยากให้มนุษย์เข้ามาทำเสียงสองเสียงสามเอาอกเอาใจสักหน่อย ถ้าอยากอยู่ใกล้ๆ ใคร เราก็อยากเป็นฝ่ายเลือกเดินเข้าไปหาเองมากกว่า
—-----
พวกมนุษย์เป็นแบบนี้กันไหม พอมีใครสักคนที่รักเราและเรารักตอบได้หมดหัวใจโดยไม่มีเงื่อนไข ก็จะรู้สึกว่าชีวิตไม่ได้โหดร้ายมากนัก และรักชีวิตของตัวเองได้โดยไม่มีเงื่อนไขเหมือนกัน
—-----
คุณยังมีเรื่องให้โทษตัวเองและเรื่องให้รู้สึกผิดรออยู่ในอนาคตอีกเยอะมาก เพราะงั้น เหลือที่ในใจเอาไว้รู้สึกผิดเฉพาะเรื่องที่จำเป็นก็พอ เพราะมันเป็นความรู้สึกที่มีน้ำหนักมากและวางลงได้ยากอย่างหนึ่งเลย
—-----
งงใจคนออกแบบพันธุกรรมเรา ทำไมแมวส้มทั้งโลกหน้าเหมือนกันไปหมด จะมีแตะสีเข้มหน่อยตรงนั้น แต้มขาวตรงนี้ หรือใส่ถุงเท้าขาวบ้าง แต่หลักๆ ก็ยังดูเหมือนๆ กันอยู่ดี ทั้งตัวเอ็มที่หน้าผาก และสีขนคล้ายหน้าขนมปังที่อบยังไม่ค่อยได้ที่ แถมผมเป็นส้มประเภทที่โหลที่สุดคือส้มเสมอกันทั้งตัว ถ้าเอามายืนรวมกันคนอาจจะนึกว่าเป็นโรงงานทำตุ๊กตาแมวส้ม
—-----
แมวบางตัวแบกสัมภาระที่ไม่จำเป็นขึ้นมาบนดาวแมวด้วยเต็มหัวใจ ซึ่งก็ทำให้มันทุกข์ แต่พวกนี้ก็ประหลาดที่มักจะเต็มใจทุกข์ ไม่ยอมปล่อยวางความทรงจำเจ็บๆ พวกนั้นสักที
—-----
ไม่เคยจริงๆ เหรอเวลาที่ได้แต่ร้องไห้ในใจเมื่อเห็นความอยุติธรรมอยู่ตรงหน้า เพราะอุ้งตีนหน้าของคุณเล็กเกินกว่าจะแก้ไขหรือช่วยอะไรใครได้ กระทั่งวันหนึ่งคุณก็เฝ้าแต่โทษตัวเองว่า หากคุณเป็นอะไรได้มากกว่าแค่แมวตัวหนึ่ง บางทีคุณอาจทำอะไรได้มากกว่านั้น
—-----
เราส่วนใหญ่ได้แต่เก็บความเจ็บปวดเอาไว้ข้างใน รอคอยว่าสักวันหนึ่งเรื่องเลวร้ายจะจบลงเอง เหมือนที่ทุกๆ เรื่องจะต้องจบลง
—-----
หัวใจของพวกวิญญาณแมวเหมือนต้นไม้ในทะเลทรายแห้งผากที่พยายามเหยียดรากหยั่งลึกลงไป กว้างไกลออกไป เพื่อตามหาโอเอซิสแช่มชื่นที่เรายังคงรัก แต่ไม่อาจเชื่อมโยงอะไรกับมันได้อีกแล้ว
ไม่มีชีวิตแต่ก็เหมือนมี ไม่มีตัวตนแต่ก็เหมือนมี ยิ่งรู้มาก ยิ่งรู้สึกมาก ก็ยิ่งเจ็บมาก
—-----
ผมชอบมนุษย์ที่มีจินตนาการ พวกนั้นมักจะอ่อนโยนและน่ารักกับแมว แต่บางคนก็ชอบคิดเองเออเองว่าเข้าใจภาษาแมว ทำให้เราสื่อสารกันผิดพลาดบ่อยครั้ง แล้วยังจะมานั่งน้อยใจว่าแมวไม่รักอีก
—-----
ชีวิตจะงดงามและมีความหมายต่อเมื่อเราได้ใช้ชีวิต คำว่าใช้ชีวิตของเราอาจนิยามต่างกัน แต่ผมค่อนข้างมั่นใจว่ามันน่าจะกินความหมายกว้างไกลกว่าการอยู่เสวยสุขบนดาวแมวแบบนี้
—-----
สิ่งสำคัญที่สุดของสิ่งมีชีวิตที่เต็มไปด้วยความรู้สึกอย่างพวกเรา คือความทรงจำที่เราเคยมีร่วมกัน เพราะอย่างน้อยในวันที่เราไม่ได้อยู่ด้วยกันแล้ว ความทรงจำถึงเรื่องราวในอดีตอันงดงามก็จะเป็นสมบัติที่เรารื้อค้นออกมาชื่นชมได้เสมอ
—-----
แม้ความทรงจำเลือนหายไปแล้ว เรื่องจริงที่ว่าสิ่งดีงามเหล่านั้นเคยเกิดขึ้นก็จะไม่มีวันหายไปไหน เรื่องราวเหล่านั้นเกิดขึ้นจริง ผลิบานงดงามสว่างไสวในห้วงเวลาหนึ่ง รอให้เราหวนกลับไปโอบกอดอีกครั้งในสักห้วงคำนึง ไม่มีใครเปลี่ยนแปลงความจริงนั้นได้
—-----
ใครต่อใครบอกคุณว่าไม่มีอะไรในโลกที่จีรังยั่งยืน แต่คุณจะต้องการความจีรังยั่งยืนไปเพื่ออะไรกัน ในเมื่อห้วงเวลาที่แสนงดงามนั้นมันเคยเกิดขึ้นแล้วจริงๆ