ปรัชญาการเมือง
ISBN: 9789743158995
แปลจากหนังสือ : Political Dialogues
ผู้แต่ง : มอริซ แครนสตัน
ผู้แปล : ส.ศิวรักษ์
สำนักพิมพ์ : Text (เครือสยามปริทัศน์)
ปีที่พิมพ์ : พิมพ์ครั้งที่ 4 พ.ศ. 2562
จำนวนหน้า : 354
บทสนทนาทั้งแปดในหนังสือเล่มนี้ ล้วนว่าด้วยปัญหาทางการเมือง หรือพูดให้ตรงยิ่งกว่านี้ ก็คือว่าด้วยปัญหาทางทฤษฎีการเมือง ในเรื่องเสรีภาพ ความเจริญ ความมีใจกว้าง รัฐ ปฏิวัติ ประชาธิปไตย จริยธรรม และคุณธรรมสำหรับพลเมือง เรื่องดังกล่าวนี้เป็นเรื่องหลักการทฤษฎีที่เกี่ยวกับรัฐมาแต่สมัยเปลโตหรือก่อนหน้านั้น และเป็นปัญหาที่น่าสนใจตลอดมาทุกยุคทุกสมัย
-- มอริซ แครนสตัน
เมื่อข้าพเจ้าเรียนปรัชญาอยู่ที่มหาวิทยาลัย มอริซ แครนสตัน ได้ตีพิมพ์ John Locke: A Biography ออกมา ปรากฏว่าเป็นที่กล่าวขวัญกันมาก และข้อเขียนก็มักมีออกอากาศทางวิทยุบีบีซีแล้วมักนำมาตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ Listener เนืองๆ พวกเราที่เป็นนักเรียนมักฟังมักอ่าน และครูอาจารย์ก็มักแนะนำให้ทำเช่นนั้นด้วย บทสนทนาบางเรื่องที่นำมาแปลนี้ ชะรอยข้าพเจ้าจะเคยได้ยินมาแต่สมัยโน้นแล้วด้วยซ้ำ
ภายหลัง เมื่อข้าพเจ้ามีกิจต้องสอนปรัชญาที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยก็ดี ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ก็ดี ได้มองหาตำรับตำราง่ายๆ ในภาษาอังกฤษ ให้นิสิตนักศึกษาอ่านอยู่เสมอ ยิ่งเมื่อตอนมารับสอนปรัชญาการเมืองสมัยใหม่ที่คณะอักษรศาสตร์ได้ไม่นาน ก็เผอิญนายแครนสตันตีพิมพ์หนังสือออกมาใหม่ ให้ชื่อว่า Political Dialogues พิจารณาดูแล้วเห็นว่าเหมาะแก่ภูมิปัญญาที่นิสิตจะพออ่านได้ จึงสั่งมาไว้ใช้เป็นหนังสือหลักสำหรับผู้ที่เรียนวิชานี้
-- ส. ศิวรักษ์
บทสนทนาในหนังสือเล่มนี้ทั้งหมด เดิมเขียนขึ้นเพื่อกระจายเสียงระบบวิทยุเหมาะกับงานวรรณกรรมประเภทนี้ เพราะหูคนเราไม่ชอบฟังเสียงคนคนเดียวนานเกินไปนัก มีคำโต้ตอบสลับบ้าง ย่อมออกรสและเวลาหูต้องการเสียงที่แผกออกไป สมองก็ต้องการรับรู้ความคิดเห็นที่แตกต่างออกไปด้วย ถ้าหลายๆ เสียงเสนอความคิดอ่านอันเดียวกันดูจะเลวร้ายกว่าเสียงเดียวเสียอีก สิ่งซึ่งผู้ฟังต้องประสงค์อย่างยิ่งจากบทสนทนาก็คือในรูปแบบของการอภิปราย หรือการโต้วาที โดยที่คำพูดของแต่ละคนต้องไม่ยาวเกินไป หาไม่ก็ควรเป็นการโต้แย้ง ซึ่งใช้เหตุผลมากกว่าอารมณ์ อีกทีหนึ่งก็ต้องเป็นแบบ “สงครามคำคม” จะอย่างไรก็ตาม การแลกเปลี่ยนความคิดทางปรัญา โดยมีทัศนคติและทัศนวิสัยต่างกันไปมากนั้น น่าสนใจ
การเขียนเป็นแบบวิธีสนทนานั้น นักปรัชญานิยมกันมานานแล้ว ดังเช่น เปลโต ฮูม และเบิกเลย์ ได้ใช้มาแล้วโดยได้รับความสำเร็จอย่างงดงาม คนทั้งสามนี้มิได้เป็นแต่ปรัชญาเท่านั้น หากยังเป็นนักวรรณศิลป์อีกด้วย โดยที่ต่างก็มีลีลาการเขียนเป็นแบบของตนเอง และที่ต่างก็ได้รับความสำเร็จนั้น เห็นจะเป็นเพราะเนื้อหาของวิชานี้นั่นเองดังเปลโตกล่าวว่า ปรัรชญานั้นไม่ใช่อะไรอื่น คือการสนทนาอย่างหนึ่งซึ่งจิตพูดกับตัวเองนั้นแล นักปรัชญาสมัยใหม่ที่ถือว่าปรัชญาเป็น “วิธีแสวงหาสัจจะโดยเหตุผล” ก็คงจะเห็นพ้องต้องด้วยกับเปลโตอย่างแน่นอน ดังนั้นการเสนอความคิดเห็นทางปรัชญาให้แนบเนียนและแยบคาย หากใช้วิธีของบทสนทนาก็จะเหมาะสมยิ่ง
สารบัญ
- บทสนทนาทางการเมืองเรื่องรัฐ ระหว่าง สาโวนาโรลา และ มาคิอาเวลลี
- บทสนทนาทางการเมืองเรื่องความมีใจกว้าง ระหว่าง จอน ล้อก และ ลอด ชาฟสเบอรี่
- บทสนทนาทางการเมืองเรื่องความเจริญ ระหว่าง ดิเดโรต์ และ รุสโซ
- บทสนทนาทางการเมืองเรื่องจริยธรรม ระหว่าง วอลแต และ ฮูม
- บทสนทนาทางการเมืองเรื่องการปฏิวัติ ระหว่าง เอ็ดมันด์ เบิค, ทอม เพน และ แมรี่ โวลสโตนครอฟต์
- บทสนทนาทางการเมืองเรื่องอนาธิปไตย ระหว่าง คาล มากซ์ และ ไมเกิล บาคูนิน
- บทสนทนาทางการเมืองเรื่องเสรีภาพ ระหว่าง จอน สจ๊วต มิลล์ และ เจมส์ ฟิตซ์เจมส์ สตีเฟน
- บทสนทนาทางการเมืองเรื่องประชาธิปไตย ระหว่าง เซอ เฮนรี่ เมน, แมทธิว อาร์โนลด์ และ จอน มอเลย์
- บทสนทนา “ธรรมชาติของมนุษย์ : ความยุติธรรม กับ อำนาจ” นอม ชอมสกี้ กับ มิแชล ฟูโคลท์