ใกล้ธรรมะ
ISBN: 9789743158247
ผู้แต่ง : สมศรี สุกุมลนันทน์
ผู้แปล : -
สำนักพิมพ์ : ศยาม
ปีที่พิมพ์ : 2556
จำนวนหน้า : 112
ธรรมะคือคุณากร หมายถึงที่รวมแห่งการกระทำความดีทั้งปวง ที่เกิดจากการกระทำ ไม่ว่าจะเป็นทางกาย วาจา ใจ ซึ่งมีจุดมุ่งหมายไว้เพื่อทำความดี เพื่อเป็นการเสียสละ
การคิดดี พูดดี เกิดจากธรรมชาติของมนุษย์เบื้องต้นแห่งการปฏิบัติธรรมที่สามารถทำได้ทุกที่ ทุกเวลา และยังหลอมรวมเป็น “พลัง” อันสามารถสร้างสรรค์ชีวิตให้สวยงาม
การกระทำทุกสิ่งถือเป็นธรรมะทั้งสิ้น
คนในสังคมหากคิดดี ปฏิบัติชอบด้วยธรรมะ ก็จะทำให้สังคมน่าอยู่ขึ้น สมศรี สุกุมลนันทน์ เขียนเรื่องราวเกี่ยวกับ “ธรรมะ” ของคนในระดับรากหญ้าได้อย่างเห็นภาพชัดเจน ท่านสามารถปอกเปลือกของผู้คนที่อยู่ล้อมรอบตัวเราว่าเข้าใจธรรมะดีอย่างไร
นั่นเป็นเพราะความยังหลงติดที่เปลือกของพุทธศาสนาที่หวังพึ่งผลบุญมากกว่าแก่นพระพี้ของคำสั่งสอนขององค์พระศาสดาที่ต้องการให้คนรู้คิดและไตร่ตรองในเหตุแห่งการกระทำ
ขณะเดียวกันท่านก็ยังตีแผ่ผู้สืบทอดแห่งศาสดาแห่งปัจจุบันต่างจากอดีตอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งจะเห็นได้จากบทความเรื่อง “ทำบุญสูญเปล่า” “วันเสาร์ที่สันติอโศก” “ทอดผ้าป่า ๒ วัด” และ “ฟังสวดภาณยักษ์” เรื่องราวเหล่านี้ท่านได้หาข้อมูลด้วยการ “ลงพื้นที่” ด้วยตัวของท่านเอง และมาบอกเล่าพร้อมทั้งแสดงความคิดเห็นทั้งด้านบวกและลบของบวรพุทธศาสนาที่ได้กลายเป็น “พุทธพาณิชย์” เป็นส่วนใหญ่ แต่ท่านก็มิได้ “ฟันธง” ว่าศาสนาพุทธจะเรียวลงจนน่าตกใจ เพราะยังมีผู้สืบศาสดาที่ดี คอยอบรมตักเตือนให้เห็นเหตุและผลแห่งคำสอนว่าเป็นเช่นไร ดังเช่นบทความเรื่อง “รับพรหลวงปู่แหวน” “สร้างวัด-รื้อวัฏฏ์” “เวียนเทียนที่วัดอุโมงค์” และ “เยี่ยมโรงเจ”.....ฯลฯ
ธรรมะคือคุณากร หมายถึงที่รวมแห่งการกระทำความดีทั้งปวง ที่เกิดจากการกระทำ ไม่ว่าจะเป็นทางกาย วาจา ใจ ซึ่งมีจุดมุ่งหมายไว้เพื่อทำความดี เพื่อเป็นการเสียสละ
การคิดดี พูดดี เกิดจากธรรมชาติของมนุษย์เบื้องต้นแห่งการปฏิบัติธรรมที่สามารถทำได้ทุกที่ ทุกเวลา และยังหลอมรวมเป็น “พลัง” อันสามารถสร้างสรรค์ชีวิตให้สวยงาม
การกระทำทุกสิ่งถือเป็นธรรมะทั้งสิ้น
คนในสังคมหากคิดดี ปฏิบัติชอบด้วยธรรมะ ก็จะทำให้สังคมน่าอยู่ขึ้น สมศรี สุกุมลนันทน์ เขียนเรื่องราวเกี่ยวกับ “ธรรมะ” ของคนในระดับรากหญ้าได้อย่างเห็นภาพชัดเจน ท่านสามารถปอกเปลือกของผู้คนที่อยู่ล้อมรอบตัวเราว่าเข้าใจธรรมะดีอย่างไร
นั่นเป็นเพราะความยังหลงติดที่เปลือกของพุทธศาสนาที่หวังพึ่งผลบุญมากกว่าแก่นพระพี้ของคำสั่งสอนขององค์พระศาสดาที่ต้องการให้คนรู้คิดและไตร่ตรองในเหตุแห่งการกระทำ
ขณะเดียวกันท่านก็ยังตีแผ่ผู้สืบทอดแห่งศาสดาแห่งปัจจุบันต่างจากอดีตอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งจะเห็นได้จากบทความเรื่อง “ทำบุญสูญเปล่า” “วันเสาร์ที่สันติอโศก” “ทอดผ้าป่า ๒ วัด” และ “ฟังสวดภาณยักษ์” เรื่องราวเหล่านี้ท่านได้หาข้อมูลด้วยการ “ลงพื้นที่” ด้วยตัวของท่านเอง และมาบอกเล่าพร้อมทั้งแสดงความคิดเห็นทั้งด้านบวกและลบของบวรพุทธศาสนาที่ได้กลายเป็น “พุทธพาณิชย์” เป็นส่วนใหญ่ แต่ท่านก็มิได้ “ฟันธง” ว่าศาสนาพุทธจะเรียวลงจนน่าตกใจ เพราะยังมีผู้สืบศาสดาที่ดี คอยอบรมตักเตือนให้เห็นเหตุและผลแห่งคำสอนว่าเป็นเช่นไร ดังเช่นบทความเรื่อง “รับพรหลวงปู่แหวน” “สร้างวัด-รื้อวัฏฏ์” “เวียนเทียนที่วัดอุโมงค์” และ “เยี่ยมโรงเจ”.....ฯลฯ