ทูร์เคีย: ผู้คน มนต์เมือง และเรื่องเล่า
ISBN: 9786168213094
แปลจากหนังสือ : -
ผู้แต่ง : เอ. อาร์. มูเก็ม
ผู้แปล : -
สำนักพิมพ์ : สำนักพิมพ์ปาตานีฟอรั่ม
ปีที่พิมพ์ : พิมพ์ครั้งแรก เมษายน 2566
จำนวนหน้า : 430
ทูร์เคีย: ผู้คน มนต์เมือง และเรื่องเล่า
Türkiye: The City of Memories
เอ. อาร์. มูเก็ม
คำปรารภของ “อภิรัตน์ สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง”
เอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงอังการา
ฟรี! ที่คั่นหนังสือในเล่ม
.งานเขียนว่าด้วยความหลากหลายและความเป็นไปของสังคมตุรกี (ทูร์เคีย) ผ่านประสบการณ์ตรงที่ผู้เขียนใช้ชีวิตในทูร์เคีย 100 วัน ในฐานะ “นักวิจัยแลกเปลี่ยน” ช่วงเดือนกันยายน 2565 - มกราคม 2566 ทั้งภาพถ่ายและเรื่องเล่าคือสิ่งที่ผู้เขียนละเมียดละไมและบันทึกไว้เพื่อเป็นองค์ความรู้ระหว่างการเดินทาง เพื่อทำความเข้าใจประวัติศาสตร์ สังคม ผู้คน วัฒนธรรม สถาปัตยกรรม การท่องเที่ยว วิถีชีวิตของผู้คน และอีกหลากหลายเรื่องราว
.“เอ. อาร์. มูเก็ม” ต้องการนำเสนอ “ภาพของผู้คน สังคม ประวัติศาสตร์เกี่ยวกับสังคมทูร์เคีย” ผ่าน “ภาพจริง” ไม่ใช่ “ภาพจำ” ที่เขาและใคร ๆ เคยบอกต่อ ๆ กันมา โดยเฉพาะความเป็นไปของสังคมทูร์เคียในปี 2022 ทั้งเรื่องของผู้คน สังคม ศาสนา เศรษฐกิจ การท่องเที่ยว การกีฬา การสัญจร การเดินทาง การขนส่ง รวมทั้งสถาบันการศึกษา แหล่งเรียนรู้ พิพิธภัณฑ์ วัฒนธรรมการจิบชา กาแฟ รวมทั้งการสูบบุหรี่ การดื่มเหล้าให้เห็นอย่างเปิดเผย รวมทั้งวัฒนธรรมแปลกหน้าอีกมากมายที่หลายคนอาจจะยังไม่รู้ ไม่เคยรับรู้ และไม่เคยเข้าใจมาก่อน
.งานเขียนยังนำเสนอ “ภาพของคนหนุ่มสาวทูร์เคีย” และมุมมองของพวกเขาว่าคิดและฝันแบบไหน อย่างไร บ้างก็ตัดพ้อ บ้างก็ยิ้มร่า ที่น่าสนใจที่สุดคือ การนำเสนอประวัติศาสตร์ทูร์เคีย นักคิด นักเขียน นักเคลื่อนไหวผ่าน “ธนบัตรลิราซีของทูร์เคีย” ซึ่งมีเรื่องราวให้ค้นหาและชวนติดตามเป็นพิเศษ
งานเขียนเล่มนี้ยังนำเสนอบทกวีชาวเติร์กอย่างยูนุส เอ็มเร หรือข้อเตือนใจของญาลาลุดดีน รูมี รวมทั้งชีวิตของคนเร่ร่อน ผู้ลี้ภัยจากบ้านเกิดเมืองนอนเพราะเศรษฐกิจ การเมือง สงคราม อย่างชาวรัสเซียและยูเครน รวมทั้งมิตรสหายคนอื่นที่ผู้เขียนพบเห็นขณะลี้ภัยและย้ายประเทศ
.มีเรื่องราวอีกมากมายที่ถูกบรรจุไว้ในหนังสือ “ทูร์เคีย: ผู้คน มนต์เมือง และเรื่องเล่า” เล่มนี้ อย่างน้อยเพื่อให้เข้าใจโลกใบใหม่เกี่ยวกับทูร์เคีย และเพื่อให้หลุดพ้นจากภาพจำเดิมที่คุ้นชินและอาจถูกแต่งแต้ม ฉาบทาด้วยสีสันต่าง ๆ มานับครั้งไม่ถ้วน จนหน้าตาของสังคมทูร์เคียอาจพร่าเลือนไปจากความจริงที่เป็นไป “แบบไม่ตรงปก” ในปัจจุบัน
.เอ. อาร์. มูเก็ม จึงทำหน้าที่เล่าเรื่องผ่านประสบการณ์ ด้วยกลิ่นอายของวรรณกรรมและวิชาการผสมปนเปกันไปเพื่อให้ไม่เสพอย่างจืดชืด และน่าเบื่อจนเกินไป
.ท้ายที่สุด เอ. อาร์. มูเก็มต้องการนำเสนอ “ความเป็นเขา” ไม่ใช่ “ความเป็นเรา” อีกทั้ง งานเขียนชิ้นนี้ อาจทำให้มิตรสหาย “มองเห็นและเข้าใจเนื้อแท้สังคมทูร์เคีย” ได้ดี และอาจมากกว่า “เรื่องเล่าที่เคยรับฟังกันมาผ่าน “การฉาบหน้าทาแป้ง” จนยากจะเห็นเนื้อแท้ของทูร์เคีย”