ลึงค์คดี
ISBN: 9786163823922
ผู้แต่ง : อุเทน มหามิตร
ผู้แปล : อุเทน มหามิตร
สำนักพิมพ์ : ชายขอบ
ปีที่พิมพ์ : 2558
จำนวนหน้า : 95
เพื่อคืนความสุข มันคุ้มค่าที่จะหลอมความกลัว
คุณเคยเล่นเงาหรือไม่...
ทำมือเป็นรูปร่างต่างๆ เอาไปขวางการเดินทางของแสง ก่อเกิดเงามืดบนกำแพงหรือพื้นผิวใดๆ ก่อเกิดจินตนาการว่ารูปเงานั้นคือรูปร่างของสิ่งต่างๆ ใดๆ
รูปร่างของเงาคือความบิดเบี้ยวของแสงคือสิ่งหลงเหลือจากการเดินทางของแสงที่ถูกขัดขวาง
บทกวีเองก็เป็นเช่นนั้น แสงแห่งความรู้สึกนึกคิดสาดส่องออกมาจากจิตใจของกวี ผู้เขียนบังกั้นมันด้วยภาษาที่ประดิษฐ์เป็นรูปร่างต่างๆ ก่อเกิดเป็นรูปความในใจต่างๆ สลักฝังบนแผ่นกระดาษ บนพื้นที่อิเล็กทรอนิกส์ หรือกระทั่งบนความเวิ้งว้างแห่งห้วงคิด เกิดเป็นบทกวี
การอ่านบทกวีคือการอ่านเงาความรู้สึกนึกคิดของกวี คือการแกะรอยเงา เพื่อตามหาว่าความนึกคิดแท้จริงของผู้เขียนนั้นรูปร่างหน้าตาเป็นอย่างไร แต่เงาก็คือเงา เงาไม่ใช่หน้าตาที่แท้จริงของวัตถุ แต่มันคือภาพทึบทึมบิดเบี้ยว ที่บางทีก็ดูไม่มีอะไรคลึงคล้ายกับรูปร่างแท้จริงที่บดบังแสงไว้ ทั้งหน้าตาของมันยังเปลี่ยนแปลงไปได้เรื่อยๆ ตามทิศทางการส่องแสงเสียอีก
เราจึงอาจไม่มีวันเข้าใจกวีไปได้มากกว่า เข้าใจตัวเราเอง ว่าเรานึกคิดอย่างไร จึงเข้าใจเงาความรู้สึกของเขาเป็นรูปร่างต่างๆ ตามความนึกคิดของเรา
สำหรับผมแล้วในยุคนี้ บทกวีของคุณอุเทน มหามิตร คือเงาที่บิดเบี้ยวที่สุดยามอ่านบทกวีของเขารูปเงาเหล่านั้นพลันจิกเล็บมาที่เนื้อลูกตากรีดมันออก แล้วแทรกตัวเข้าไปถึงข้างในจิตใจ เข้าควบคุมประสาท ปะปนในกระแสไฟฟ้าทิ่วิ่งเข้าสู่สมอง ก่อเกิดการตีความที่ทำให้โลกดั้งเดิมทุกใบผิดเพี้ยนไปจากที่เคย ลึงค์คดี คืออีกผลงานของเขาที่ทำให้ผมเข้าไปสู่ดินแดนแบบนั้น ดินแดนที่ทำให้ผมต้องนั่งทบทวนตัวเองเสมอว่า มันไม่ใช่เพียงเงาอันบิดเบี้ยวของเขาที่ตัวเราต้องเข้าใจว่าอีกอะไร แต่มันคือแสงแห่งจิตใจของเขาด้วย ที่เราต้องพยายามทำความเข้าใจว่ามันส่องออกไปยังสรรพสิ่งในโลกนี้อย่างไร สรรพสิ่งทั้งภายในและภายนอก และเราเอาอะไรไปกีดกั้นมันไว้จนเกิดกลายเป็นรูปลักษณ์อย่างไร
ขอเชิญเปิดเปลือกเนื้อหนังทั้งปวงที่หุ้มอยู่ออก ถอดกระดูกขว้างทิ้งไปให้ไกลแสนไกลในความเวิ้งว้างของโลกภาษา แล้วพาตัวเองดำดิ่งลงสู่เงามืดของกันและกัน
ในดินแดนปราศจากความสว่างไสว คุณอาจเห็นตัวเองชัดเจนกว่าในความเจิดจ้าใดๆ
เพื่อคืนความสุข มันคุ้มค่าที่จะหลอมความกลัว
คุณเคยเล่นเงาหรือไม่...
ทำมือเป็นรูปร่างต่างๆ เอาไปขวางการเดินทางของแสง ก่อเกิดเงามืดบนกำแพงหรือพื้นผิวใดๆ ก่อเกิดจินตนาการว่ารูปเงานั้นคือรูปร่างของสิ่งต่างๆ ใดๆ
รูปร่างของเงาคือความบิดเบี้ยวของแสงคือสิ่งหลงเหลือจากการเดินทางของแสงที่ถูกขัดขวาง
บทกวีเองก็เป็นเช่นนั้น แสงแห่งความรู้สึกนึกคิดสาดส่องออกมาจากจิตใจของกวี ผู้เขียนบังกั้นมันด้วยภาษาที่ประดิษฐ์เป็นรูปร่างต่างๆ ก่อเกิดเป็นรูปความในใจต่างๆ สลักฝังบนแผ่นกระดาษ บนพื้นที่อิเล็กทรอนิกส์ หรือกระทั่งบนความเวิ้งว้างแห่งห้วงคิด เกิดเป็นบทกวี
การอ่านบทกวีคือการอ่านเงาความรู้สึกนึกคิดของกวี คือการแกะรอยเงา เพื่อตามหาว่าความนึกคิดแท้จริงของผู้เขียนนั้นรูปร่างหน้าตาเป็นอย่างไร แต่เงาก็คือเงา เงาไม่ใช่หน้าตาที่แท้จริงของวัตถุ แต่มันคือภาพทึบทึมบิดเบี้ยว ที่บางทีก็ดูไม่มีอะไรคลึงคล้ายกับรูปร่างแท้จริงที่บดบังแสงไว้ ทั้งหน้าตาของมันยังเปลี่ยนแปลงไปได้เรื่อยๆ ตามทิศทางการส่องแสงเสียอีก
เราจึงอาจไม่มีวันเข้าใจกวีไปได้มากกว่า เข้าใจตัวเราเอง ว่าเรานึกคิดอย่างไร จึงเข้าใจเงาความรู้สึกของเขาเป็นรูปร่างต่างๆ ตามความนึกคิดของเรา
สำหรับผมแล้วในยุคนี้ บทกวีของคุณอุเทน มหามิตร คือเงาที่บิดเบี้ยวที่สุดยามอ่านบทกวีของเขารูปเงาเหล่านั้นพลันจิกเล็บมาที่เนื้อลูกตากรีดมันออก แล้วแทรกตัวเข้าไปถึงข้างในจิตใจ เข้าควบคุมประสาท ปะปนในกระแสไฟฟ้าทิ่วิ่งเข้าสู่สมอง ก่อเกิดการตีความที่ทำให้โลกดั้งเดิมทุกใบผิดเพี้ยนไปจากที่เคย ลึงค์คดี คืออีกผลงานของเขาที่ทำให้ผมเข้าไปสู่ดินแดนแบบนั้น ดินแดนที่ทำให้ผมต้องนั่งทบทวนตัวเองเสมอว่า มันไม่ใช่เพียงเงาอันบิดเบี้ยวของเขาที่ตัวเราต้องเข้าใจว่าอีกอะไร แต่มันคือแสงแห่งจิตใจของเขาด้วย ที่เราต้องพยายามทำความเข้าใจว่ามันส่องออกไปยังสรรพสิ่งในโลกนี้อย่างไร สรรพสิ่งทั้งภายในและภายนอก และเราเอาอะไรไปกีดกั้นมันไว้จนเกิดกลายเป็นรูปลักษณ์อย่างไร
ขอเชิญเปิดเปลือกเนื้อหนังทั้งปวงที่หุ้มอยู่ออก ถอดกระดูกขว้างทิ้งไปให้ไกลแสนไกลในความเวิ้งว้างของโลกภาษา แล้วพาตัวเองดำดิ่งลงสู่เงามืดของกันและกัน
ในดินแดนปราศจากความสว่างไสว คุณอาจเห็นตัวเองชัดเจนกว่าในความเจิดจ้าใดๆ