ซาลัมโบ (Salammbô) ปกแข็ง สันโค้ง
ISBN: 9786169367499
แปลจากหนังสือ : Salammbô
ผู้แต่ง : กุสตาฟ โฟลแบรต์ (Gustave Flaubert)
ผู้แปล : ทัศนีย์ นาควัชระ แปลจากภาษาฝรั่งเศส
สำนักพิมพ์ : อ่าน๑๐๑ สำนักพิมพ์
ปีที่พิมพ์ : พิมพ์ครั้งที่สอง มกราคม 2565
จำนวนหน้า : 488
ซาลัมโบ (Salammbô) ปกแข็ง สันโค้ง
กุสตาฟ โฟลแบรต์ (Gustave Flaubert) : เขียน
ทัศนีย์ นาควัชระ : แปลจากภาษาฝรั่งเศส
นักรบ มูลมานัส : ออกแบบปก
ผลงานที่เปรียบประดุจอนุสาวรีย์ทางวรรณศิลป์ขนาดมหึมาของ “กุสตาฟ โฟลแบรต์”
ผสานจินตนาการสร้างสรรค์เพื่อให้ประวัติศาสตร์โบราณยุคคาร์เธจกลับมาโลดเต้นมีชีวิตชีวาอีกครั้ง
ค้นคว้าข้อมูลจากหนังสือนับร้อยๆเล่ม รวมถึงสัมภาษณ์และลงพื้นที่จริง
ใช้เวลาเขียน 5 ปีติดต่อกัน ใช้กระดาษร่างต้นฉบับมากถึง 4,000 หน้า
ฉบับภาษาไทย ใช้เวลาแปล 3 ปี
ได้รับรางวัลหนังสือแปลดีเด่นประเภทนวนิยาย ประจำปี พ.ศ. 2545
ในเล่มมีโปสการ์ด 2 ใบ (2 แบบ) และที่คั่นหนังสือ 1 ชิ้น
ซาลัมโบ (Salammbô) ปกแข็ง สันโค้ง
ผลงานของ “กุสตาฟ โฟลแบรต์”
”ทัศนีย์ นาควัชระ” แปลจากภาษาฝรั่งเศส
นวนิยายอิงประวัติศาสตร์โบราณยุคคาร์เธจที่ผสานจินตนาการสร้างสรรค์
เพื่อให้มหาศึกอันดุเดือดได้โลดเต้นมีชีวิตชีวาขึ้นมาอีกครั้ง
ต้นเหตุเกิดจากการตระบัดสัตย์ของเหล่าผู้นำชาวคาร์เธจ
ผลักให้ชนเผ่าอนารยะหลากหลายเชื้อชาติซึ่งเคยเป็นมิตรร่วมรบกลายมาเป็นศัตรูที่น่าพรั่นพรึง
ผสมโรงกับเรื่องรักระหว่างรบของ “มาโต้” แม่ทัพฝ่ายชนเผ่า กับโฉมงาม “ซาลัมโบ” ธิดาสาวของแม่ทัพฝ่ายศัตรู
ผู้เป็นพี่สาวของฮันนิบาล บาร์กา ความงามที่เปรียบประดุจภาคหนึ่งของเทพีแห่งดวงจันทร์
แบ่งร่างลงมาอยู่ในโลกมนุษย์ กลายเป็นภาพหลอนกระตุ้นเร้าให้มาโต้มุ่งมั่นทำสงคราม
เพื่อจะครอบครองอาณาจักรนี้และตัวซาลัมโบ
โดยไม่นำพาว่าต้องแลกด้วยชีวิตและเลือดเนื้อของมนุษย์เรือนหมื่นเรือนแสน
ผลงานที่เปรียบดังอนุสาวรีย์ทางวรรณศิลป์ขนาดมหึมา
ซึ่งกุสตาฟ โฟลแบรต์ทุ่มเทชีวิตจิตใจให้แก่การประพันธ์เรื่องนี้ โดยต้องศึกษาค้นคว้าจากหนังสือนับร้อยๆ เล่ม
สัมภาษณ์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านเกี่ยวกับภาวะเฉียดตายในรูปแบบต่างๆที่ตัวละครต้องเผชิญ
รวมถึงเดินทางไปศึกษาสถานที่จริงอยู่นานถึง 2 เดือน ใช้เวลาเขียน 5 ปีติดต่อกัน
และใช้กระดาษทั้งสองด้านร่างต้นฉบับจำนวน 2,000 แผ่น
เพื่อให้กำเนิดผลงานศิลปะอันงดงามเลิศล้ำและคงความอมตะประหนึ่งงานสร้างสรรค์ของพระเจ้า
ฉบับภาษาไทย แปลจากภาษาฝรั่งเศสโดย “ทัศนีย์ นาควัชระ”
ใช้เวลาหลังเกษียณถึง 3 ปี บรรจงแปลด้วยแรงใจเพื่อมอบเป็นสมบัติกลางแก่ผู้รักการอ่าน
ดอกผลจากความวิริยอุตสาหะทำให้งานแปลเรื่องนี้
ได้รับรางวัล “หนังสือแปลดีเด่น” ประเภทนวนิยาย ประจำปี พ.ศ. 2545
จากคณะกรรมการพัฒนาหนังสือแห่งชาติ กระทรวงศึกษาธิการ