ห้องแต่งผมไมเต้
ISBN: 9786167368580
ผู้แต่ง : มารี-โอ๊ด มูรัย
ผู้แปล : เย็นตา
สำนักพิมพ์ : สวนเงินมีมา
ปีที่พิมพ์ : 2558
จำนวนหน้า : 205
หลุยส์ เฟรีแยรส์ ต้องฝึกงานเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์เหมือนนักเรียน ม. ๓ ทุกคน จะให้ฝึกที่ไหนล่ะ เขาไม่รู้หรอก ที่แน่ๆ ก็คือ เขาไม่ชอบไปโรงเรียน และรู้ว่าตัวเองเรียนไม่เก่งสักวิชา “ร้านตัดผมที่ยายไปทำ เขารับนักเรียนที่เรียนทำผมมาเป็นช่างฝึกหัด แต่เด็กนักเรียนฝึกงานอย่างหลานก็คงไม่ต่างกันนักหรอก”
อาชีพทำผมน่ะรึ มันเป็นอาชีพสำหรับคนที่ล้มเหลว คนที่ไม่รู้หนังสือบิดาของเขาซึ่งเป็นศัลยแพทย์เคยปรามาสไว้ แต่เนื่องจากเขาหาที่ฝึกงานไม่ได้จึงไปเป็นนักเรียนฝึกงานที่ห้องแต่งผมไมเต้ และที่นี่เขาก็ได้ค้นพบว่าตัวเองเป็นคนตรงต่อเวลา ขยันขันแข็ง กระตือรือร้น และมีพรสวรรค์
บรรยากาศที่พลุกพล่านแต่ครื้นเครงสนุกสนาน บทสนทนาระหว่างช่างทำผมและลูกค้า กลิ่นสเปรย์และน้ำยาย้อมผม เสียงกระดิ่งที่ประตู ความกังวลเล็กๆ น้อยๆ และเรื่องเศร้าของมาดามไมเต้ ฟิฟี คลาราและการองส์ ทั้งหมดนั้นล้วนดึงดูดให้หลุยส์ไปที่ห้องแต่งผมไมเต้ เขามีความสุขที่นั่น มันคือบ้านของเขา
ตั้งแต่วันที่สองของการฝึกงาน หลุยส์ก็รู้ว่าเขาอยากอยู่ที่ห้องแต่งผมไมเต้มากกว่าหนึ่งสัปดาห์ แม้บิดาเขาจะคัดค้านเต็มที่ก็ตาม
‘ในนามของความรัก’ พ่อแม่หลายคนเผลอทำร้ายลูกโดยไม่รู้ตัว ‘ในนามของความกลัว’ ลูกหลายคนยอมให้พ่อแม่ร่างพิมพ์เขียวชี้อนาคตและกำหนดความฝันของตัวเองโดยไม่โต้แย้ง ภายเหตุการณ์เช่นนี้ฉายให้เราเห็นซ้ำแล้วซ้ำเล่านับแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ทั้งในชีวิตจริงและในนิยาย ราวกับว่า ความผิดพลาดในอดีตมีไว้เพื่อให้อนาคตเลียนแบบ
วรรณกรรมเยาวชนขนาดบางน้ำหนักเบาเล่มนี้ หนักอึ้งไปด้วยปมขัดแย้งด้านความสัมพันธ์ระหว่างตัวละครหลากวัย หลายเพศ มากสถานภาพ ผู้เขียนได้หยิบเอาจุดบอดอันแสนธรรมดาแต่มักสร้างปัญหาใหญ่ให้ชีวิตมาตีแผ่ จนอดทึ่งไม่ได้ว่า มนุษย์เรานั้น ไม่ว่าจะชาติไหน ภาษาใด ต่างก็มีความอ่อนแอทางจิตวิญญาณและมักถูกค่านิยมกลวงๆ ลวงได้ง่ายเสียนี่กระไร หรือว่าสิ่งนี้คือ “ความทุกข์ร่วมสมัยของมนุษยชาติ”
“มีแต่คนไม่เอาไหนเท่านั้นที่ทำอาชีพทำผม” นี่เป็นอีกหนึ่งบรรทัดฐานจอมปลอมที่เกือบทำลายความฝันของเด็กหนุ่มผู้เงียบขรึมไปทั้งชีวิต “งานที่ต้องใช้ ‘มือทำ’ ทำงานที่ไร้ศักดิ์ศรี ไม่มีเกียรติ คนไม่รู้หนังสือเท่านั้นแหละที่ทำกัน” ทัศนคติที่แฝงมากับระบบทุนนิยมซึ่งตีค่ามนุษย์จากเปลือก ส่งผลให้พ่อแม่ติดบ่วงและส่งทอดความเชื่อนี้มาสู่ลูก เด็กหลายคนอาจโชคไม่ดีเท่า ‘หลุยส์’ ตัวละครหลักในเรื่องนี้ ที่แน่วแน่ต่อความชอบในอาชีพ ‘ช่างตัดผม’ และมุ่งมั่นตามฝันอย่างไม่ลดละ ผู้เขียนจัดวางความสัมพันธ์ของตัวละครไว้อย่างฉลาดดำเนินเรื่องกระชับ ทุกปรโยค ทุกคำบรรยายทำหน้าที่ได้ครบถ้วน ความพอดีที่เหนือชั้นนี้ทำให้เราคล้อยตามและ ‘อิน’ ไปกับชะตากรรมของทุกตัวละครโดยไม่รู้สึกอึดอัด