300 นโยบาย เปลี่ยนประเทศ พรรคก้าวไกล **สินค้าหมด**

หนังสือรวบรวมรายละเอียดวาระ “300 นโยบายเปลี่ยนประเทศ” ของพรรคก้าวไกล ซึ่งมีที่มาทั้งจากข้อเสนอของประชาชนและสมาชิกพรรค จากปัญหาที่เราเห็นในสภามาตลอดการทำงาน 4 ปี การปรึกษาหารือกับผู้เชี่ยวชาญและผู้มีส่วนได้เสียในทุกภาคส่วน ไปจนถึงการศึกษา ค้นคว้า วิจัย อย่างหนักของทีมนโยบายพรรคก้าวไกล

พรรคก้าวไกลเชื่อว่าโจทย์สำคัญของประเทศไทยสำหรับการเลือกตั้ง 14 พฤษภาคม 2566 คือการเอาระบอบสืบทอดอำนาจรัฐประหารและพรรคทหารจำแลงออกไปจากสารบบการเมืองไทยทั้งหมด เพื่อให้ประเทศไทยมีความพร้อมรับมือกับความท้าทายและโอกาสแห่งโลกอนาคต ดังนั้นโจทย์การทำนโยบายของเราครั้งนี้จึงมีเป้าหมายว่า “การเมืองดี ปากท้องดี มีอนาคต”

“การเมืองดี” หมายถึงการเมืองที่เป็นประชาธิปไตยเต็มใบ มนุษย์ทุกคนมีศักดิ์ศรีเท่าเทียมกัน สิทธิเสรีภาพในกรแสดงออกของทุกคนได้รับความคุ้มครอง พลเรือนอยู่เหนือทหารไม่ใช่ทหารอยู่เหนือพลเรือน ระบบราชการฉับไวคุ้มค่าภาษีประชาชนและโปร่งใสไร้โกง และตำรวจเป็นผู้พิทักษ์สันติราษฎร์อย่างแท้จริง

“ปากท้องดี” หมายถึงเศรษฐกิจที่คนไทยทุกคนมีโอกาสลืมตาอ้าปากได้ คนไทยทุกคนต้องการได้รับสวัสดิการถ้วนหน้าเป็นตาข่ายคุ้มครองทางสังคม สวัสดิการถ้วนหน้าไม่เพียงแต่จะคุ้มครองไม่ให้ต้องมีคนไหนหลุดเข้าไปสู่ความอดอยาก แต่ยังเป็นการสร้างพลวัตทางเศรษฐกิจให้กลับมาเติบโตได้มากยิ่งขึ้นจากความกล้าเสี่ยง จากความเป็นผู้ประกอบการ ที่จะเกิดขึ้นจากการรู้ว่ามีตาข่ายทางสังคมรอรับเราอยู่ทุกครั้งที่เราล้ม ทำให้เราสามารถลุกขึ้นมาใหม่ได้ การให้สวัสดิการถ้วนหน้าแก่เด็กและคนชรายังเป็นการปลดเปลื้องภาระให้กับคนไทยวัยทำงานให้สามารถออกไปทำงานสร้างเนื้อสร้างตัวได้อย่างเต็มศักยภาพ นอกจากนี้ปากท้องดียังหมายถึงเศรษฐกิจที่เอื้อให้ทุนขนาดเล็กแข่งขันกับทุนใหญ่ได้ ผ่านการให้แต้มต่อ เติมทุน เติมตลาด ตัดรายจ่ายให้กับ SME และการทลายทุนผูกขาดที่กินรวบสังคไทยอยู่ในขณะนี้

“มีอนาคต” เป็นการนำประเทศไทยไปปักธงในเศรษฐกิจแห่งอนาคต ทั้งในด้านเศรษฐกิจสร้างสรรค์และอุตสาหกรรมเทคโนโลยีขั้นสูง เพื่อให้คนไทยสามารถมีงานดีๆ มีคุณภาพ งานที่มีโอกาสเติบโตได้ในอนาคต หรือสามารถสร้างเนื้อสร้างตัวที่ประเทศไทยท่ามกลางความผันผวนของเศรษฐกิจแห่งโลกอนาคตได้ ทำให้เรากลับมามีความหวังและความฝันกับประเทศไทยอีกครั้งหนึ่ง

พรรคก้าวไกลหวังเป็นอย่างยิ่งว่าหนังสือ “300 นโยบายเปลี่ยนประเทศ” จะสามารถนำเสนอวิสัยทัศน์และทางออกให้กับประเทศได้อย่างเป็นรูปธรรมให้ทุกคนจับต้องได้

ที่สำคัญที่สุด “หนังสือเล่มนี้จะเป็นสิ่งที่บ่งบอกว่าเราทำงานอย่างหนักเพื่อกลั่นกรองนโยบายที่คิดอย่างครบถ้วนรอบด้าน มีที่มาที่ไป และเป็นคำสัญญาต่อประชาชนทั้งประเทศว่าถ้าหากเรามีอำนาจบริหารประเทศแล้ว เราจะเข้าไปเปลี่ยนแปลงประเทศด้วยวิสัยทัศน์และแนวนโยบายที่ได้ประกาศไว้เป็นสัญญาประชาคมตามที่ทุกท่านจะได้อ่านในหนังสือเล่มนี้ต่อไป”